ใกล้จะถึงหน้าหนาวนี้แล้ว หากใครที่อยากให้บ้านเต็มไปด้วยความสวยงามและกลิ่นหอมฟุ้งของดอกไม้หน้าหนาวหรือไม้ดอกหน้าหนาวต่าง ๆ ละก็ เราได้มารวบรวมดอกไม้ที่บานและจะหอมในช่วงหน้าหนาว หรือในระหว่างเดือนกลางเดือนตุลาคม-กลางเดือนกุมภาพันธ์มาฝาก โดยมีครบทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และไม้เลื้อย ที่สำคัญสวยงาม เลอค่า น่าปลูกมาก บอกเลยงานนี้คนรักการจัดสวนต้องห้ามพลาดเด็ดขาด
1. ปีบ
ปีบ หรือชื่อกาสะลอง (Cork Tree) จะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Millingtonia hortensis Linn. ต้นกำเนิดมาจากประเทศไทย ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ จะสูงโปร่ง ผลัดใบ ยอดพุ่มทรงกระบอก แตกกิ่งก้านสูงและห้อยลงมาด้านล่าง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก รูปไข่ จะมีปลายแหลม โคนมน ขอบหยักเล็กน้อย ส่วนดอกออกเป็นช่อกระจุกซ้อนตาม มีขน บ้างสีขาว บ้างก็สีชมพู มักจะพบในช่วงปลายฝนถึงกลางหนาว หรือราวเดือนตุลาคม-มีนาคม ส่งกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน ผลเป็นฝักแห้ง และแบน ตรง สีน้ำตาล สามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งปักชำและตอนกิ่ง และดูแลไม่ยาก ปลูกในที่แล้งได้ ชอบดินที่มีธาตุอาหารต่ำ ต้องการน้ำประมาณ 3 วัน/ครั้ง แต่จะต้องหมั่นตัดแต่งทรงเพื่อควบคุมลักษณะและความสวยงามของต้นเป็นประจำ
2. ลำดวน
ลำดวน หรือชื่อหอมนวล (Lumduan) จะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Melodorum fruticosum Lour. ต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบอินโดจีน ในประเทศไทยพบมากตามป่าป่าเบญจพรรณหรือป่าดิบแล้ง เป็นทั้งไม้มงคล ต้นประจำจังหวัดศรีสะเกษ และไม้ประดับ ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ยอดหนาทึบ ไม่ผลัดใบ และเปลือกลำต้นแตกเป็นสะเก็ด ใบเป็นใบเดี่ยว รูปหอก ปลายแหลม โคนมน แผ่นบางเหนียว ส่วนดอกออกเดี่ยว สีเหลืองนวลสวย และกลีบหนาแข็ง ส่งกลิ่นหอมเย็นในช่วงเย็นไปจนถึงเช้า มักจะพบในเดือนธันวาคม-มีนาคม ผลทรงกลม อยู่เป็นกลุ่ม มีสีเขียวเมื่ออ่อน สีแดงอมดำเมื่อสุก นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง ชอบดินร่วน ชอบแดดปานกลาง และชอบน้ำปานกลาง แข็งแรง ทนทาน ทนแล้งดี แต่โตค่อนข้างช้าและใช้เวลานานกว่าจะออกดอก
3. พะยอม
พะยอม (Phayom หรือ ชื่อWhite – Meranti) 0tมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Shorea roxburghii G. Don. ในต้นกำเนิดมาจากประเทศในทวีปเอเชีย เช่น ไทย พม่า ศรีลังกา ในลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ และทรงพุ่มกลมสวยงาม ใบเป็นใบเดี่ยว ขนาดเล็ก รูปหอก ปลายมน โคนมน ขอบเป็นคลื่น เนื้อหนาจะเป็นมัน ดอกจะออกเป็นช่อ มีสีขาวหรือขาวอมเหลือง กลิ่นหอมมาก โดยเฉพาะช่วงเย็นถึงมืด และบานพร้อมกันทั้งลำต้น มักจะพบในช่วงปลายฤดูหนาวถึงต้นฤดูร้อน หรือราวเดือนธันวาคม-เมษายน และผลเป็นทรงกระสวยปลายแหลมมีปีก เป็นที่นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง สวยงามแต่โตช้า ปลูกในที่แห้งแล้งได้แต่ไม่ชอบดินเค็ม ในช่วงที่ใบร่วงไม่ควรให้ปุ๋ยและน้ำ รอสักพักจนจะกระทั้งร่วงหมดต้น แล้วจึงกลับมาให้ปุ๋ยและน้ำทันที
4. กระดังงา
กระดังงา หรือชื่อการเวก (Ylang-Ylang หรือ Cananga) จะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Artabotrys hexapetalus (Linn.f.) Bhandari. หรือ Cananga odorata (Lamk.) Hook.f. et Th. ในต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดียและศรีลังกา ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นหรือไม้เลื้อยเนื้อแข็งมีเถา ขนาดกลางถึงใหญ่ ในอายุหลายปี กิ่งก้านลู่ลงด้านล่าง ใบเป็นใบเดี่ยว รูปรี ปลายแหลม โคนมน แผ่นหนาและเหนียว มีขนตามเส้นใบ จะดอกออกเดี่ยว มีสีเหลืองสวยงาม มีจุดเล็กสีขาวตรงกลาง จะส่งกลิ่นหอมแรง บานช่วงเช้าตรู่ พบเห็นได้ตลอดทั้งปี แต่จะดกมากในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ในส่วนผลทรงรีและป้อม มีเมล็ดข้างใน
ในคนส่วนใหญ่นิยมปลูกเป็นไม้มงคล ไม้ประดับ และในไม้ช่วยลดมลพิษทางอากาศ นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และปักชำ นิยมปลูกในแปลงและทำที่ค้ำให้เลื้อยเกาะ จะแข็งแรง และทนความร้อนดี ทนมลพิษสูง ชอบดินร่วนซุย ต้องการน้ำปานกลาง ต้องการแดดจัดในกลางแจ้ง และก็ควรหมั่นตัดแต่งกิ่งเป็นประจำเพื่อความสวยงามและทรงพุ่มที่เหมาะสม
5. วาสนา
วาสนา หรือ ชื่อประเดหวี (Dracaena) จะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dracaena fragrans (L.) Ker-GawI. ลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นกลม ไม่มีกิ่งแต่มีข้อติดกัน จะใบเป็นใบเดี่ยว รูปหอก โคนเป็นกาบหุ้มต้น จะมีปลายแหลมโค้งลง ขอบเรียบ แผ่นหนา ผิวมัน มีทั้งสีเขียว สีขาวอมเขียว และจะมีสีเขียวมีลาย ดอกออกเป็นช่อ สีชมพูอ่อนถึงขาว บานตอนกลางคืน มีกลิ่นหอมแรง และมักจะพบในช่วงกลางหรือปลายหนาว ส่วนผลเป็นทรงกลม มีเมล็ดข้างใน จะปลูกง่ายและ ดูแลไม่ยาก ใช้ดินทั่วไป โตเร็วปานกลาง ชอบความชื้นปานกลาง และชอบแสงแดดปานกลางถึงรำไร
และก็มาถึงตอนนี้หากใครยังสับสนไม่รู้จะปลูกอะไรดี ขอแนะนำให้ลองปลูกดอกไม้หน้าหนาวหอมเหล่านี้เลย อ๊ะ ๆ ๆ แต่ต้องรีบเร่งมือหน่อยนะคะ ไม่งั้นจะไม่ทันลมหนาวและอากาศเย็นเอาได้นะ
